กลับมาคราวนี้ nVidia เค้ามาแรงจริงๆ โดยนอกเหนือจากการเปิดตัวการ์ดจอตระกูล Kepler ในตัวท๊อปอย่าง GeForce GTX680 แล้วก็ยังเพิ่มคุณสมบัติเทพๆเข้าไปอีกด้วย ซึ่งคุณสมบัติที่ว่านี้ก็คือ "คำสั่งลดรอยหยักของภาพ" หรือคำพูดที่คุ้นหูคุ้นตาว่า anti-aliasing โดยในปัจจุบันนั้นที่ใช้กันเค้าจะเรียกว่า MSAA(Multisample anti-aliasing) ซึ่งโดยปกติแล้ว การ์ดจอทุกๆรุ่นทุกยี่ห้อมันก็สามารถทำได้ไม่ได้แปลกอะไร จะลดรอยหยักมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความแรงของการ์ดจอ เพราะว่าถ้ายิ่งลดรอยหยักมาก ภาพก็สวยขึ้น จึงต้องใช้การ์ดจอที่แรงขึ้นเป็นเงาตามตัว
โครงสร้างภายในของสถาปัตยกรรม Kepler
แต่ว่าทาง nVidia เค้ามาเหนือมากๆครับ โดยทาง nVidia นั้นตั้งชื่อคำสั่งนี้ว่า TXAA (ซึ่งผมก็ยังหาไม่เจอว่ามันย่อมาจากอะไร เอาเป็นว่าขอติดไว้ก่อน) ซึ่งคำสั่ง TXAA นั้นเกิดมาเพื่อลดรอยหยักของภาพในเกมส์เช่นเดียวกับ MSAA แต่แตกต่างกันที่ TXAA นั้นมีแค่ 2 ระดับเท่านั้นก็คือ TXAA(1) และ TXAA2 แตกต่างจากเทคนิคแบบ MSAA คือว่ามันจะมีตั้งแต่ 2X MSAA จนถึง 16X MSAA เลยทีเดียว
แล้วถ้า TXAA มันน้อยแบบนี้แล้วมันจะดีกว่า MSAA ได้ยังไง ผมขอพูดง่ายๆว่าเมื่อเปิด TXAA ระดับที่หนึ่ง เพื่อนๆจะได้ภาพในเกมส์ที่เนียนเหมือนกับ 16X MSAA แต่ว่า framerate ที่ได้นั้นเหมือนกับเปิด MSAA แค่ 2X เท่านั้น เป็นยังไงหละครับ แบบนี้ไม่เรียกว่าสุดยอดคงจะไม่ได้แล้ว ส่วน TXAA ระดับที่สองนั้น คุณภาพของภาพที่ได้นั้นจะเนียนกริ๊บสูงกว่า 16X MSAA เสียอีก แต่ว่า framerate ที่ได้อยู่ในระดับการเปิด 4X MSAA เท่านั้น O_o!!
ตัวอย่างการใช้ FXAA กับเกมชื่อดังอย่าง Mass Effect 3
แต่จะว่าไปแล้วทาง AMD เค้าก็มีมาซักพักแล้วเหมือนกันนั่นก็คือ Morphological Anti-Aliasing หรือที่เรียกย่อๆว่า MLAA ซึ่งภาพที่ได้นั้นก็สวยกว่าการใช้เพียงแค่ MSAA อย่างเดียว แต่ว่าถ้ามองไปถึงเรื่องของ framerate ที่ได้กลับคืนมาแล้วนั้น สงสัยปีนี้ผมคงต้องขอย้ายค่ายจากสีแดงแรงฤทธ์อย่าง AMD ไปซบอกค่ายสีเขียวอย่าง nVidia กันบ้างหละครับ
เทคนิค MLAA จากทางฝั่ง AMD ครับผม
Credit : Sixmelon
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น